27 7 27 แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูมี ก้าวต่อไปต้องดีกว่าเดิม

27 07 2556 ครบรอบอายุ 29 ปีบริบูรณ์ ปีนี้เป็นอีก 1 ปีที่มีเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตมากมาย ปกติทุกๆ ปีวันเกิดผมมักจะไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ส่วนใหญ่จะไปเฮฮากับเพื่อน แต่ปีนี้ว่างไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน พรุ่งนี้ว่าจะสั่งอาหารมากินที่บ้านกับครอบครัว (จริงๆ แอบฉลองไปแล้ว 2 รอบ T^T)

ผมยังย้ำเตือนตัวเองเสมอว่าชีวิตนี้ผมจะใช้ชีวิตให้บาลานซ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ คำว่าบาลานซ์ในที่นี้หมายความว่า ผมจะไม่บ้างานจนเพื่อนไม่คบ แฟนเลิก ผมจะไม่เที่ยวจนไม่หลับไม่นอนเสียการเสียงาน หรือไม่สนใจครอบครัว มัวอยู่กับแฟนหรือเพื่อน ผมมีความคิดว่าการที่เราจะทำอะไรนั้นควรคิดให้เยอะๆ คิดให้จบและคิดให้เสร็จเมื่อคิดเสร็จแล้วว่าเราจะทำ หลังจากนั้นเลิกคิดแล้วลงมือทำให้ถึงที่สุดอย่าเสียเวลามานั่งคิดใหม่ เมื่อทำจนมากพอแล้วสุดท้ายไม่เวิร์คค่อยกลับมาคิดก็ไม่เสียหาย ผมคิดจบแล้วครับว่าผมจะบาลานซ์การใช้ชีวิตให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นทุกก้าวที่จะเดินต่อจากนี้จะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตที่ผมวางไว้ เช่น งานที่เลือกทำจะต้องมีเวลาอยู่กับครอบครัวและคนรัก มีเวลาเที่ยวและออกกำลังกาย พร้อมทั้งค่าตอบแทนของงานที่ทำต้องทำให้เราอยู่ได้ไม่ขัดสนอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะทำไม่ได้เลยถ้าเราไม่พัฒนาตัวเองให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่เราวางไว้

เมื่อผมมองย้อนกลับไป 1 ปีที่ผ่านมา ผมยังทำไม่ดี 2 เรื่องด้วยกันคือ ดูแลครอบครัว และดูแลสุขภาพตัวเอง ยอมรับครับว่าครึ่งปีหลังผมโหมกับงานมากสุดๆ พอมีเวลาว่าง (ประมาณ วันสองวัน) ก็จะไปเฮฮาสังสรรค์ กินเหล้า กินเบียร์กับเพื่อน แต่ก็ยังโชคดีหน่อยเพราะผมอยู่กับครอบครัวเจอกันทุกวันแต่ถือว่ายังสอบตกในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องสุขภาพครึ่งปีแรกจัดเต็มออกกำลังกาย 3-4 วันต่อสัปดาห์แต่พอเข้ามาครึ่งปีหลัง ไม่ได้เล่นเลย เพราะอย่างที่บอกครับผมให้เวลากับงานมากถึงบ้านก็ 5 ทุ่มทุกวัน หมดแรงนอน T^T

มองไปอีก 1 ปีต่อจากนี้ผมก็ยังให้น้ำหนักกับการทำงานมากที่สุดอยู่ แต่จะลดลงเพื่อเพิ่มเวลาให้กับครอบครัว และสุขภาพมากขึ้นครับ เป้าหมายปีนี้ หน้าที่การงานตอนนี้กำลังเดินตามแผนที่ได้วางไว้เป็นอย่างดี และจะต้องทำให้มันสำเร็จให้ได้ ด้านสุขภาพจะต้องออกกำลังกายให้ได้ 2-3 วัน/สัปดาห์ ด้านครอบครัวและคนรัก ต้องอยู่สบายไม่ลำบากและต้องทำให้ดีกว่าดีปีที่ผ่านมา สุดท้ายเรื่องการพัฒนาตัวเองผมจะต้องพัฒนาตัวเองให้ก้าวไปในระดับนานาชาติให้ได้ (ไม่รู้อีกกี่ปี :D)

เจอกันใหม่ 27 07 2557

แบบฝึกหัดสำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จ

เขาบอกว่าหนังสือที่ดี คือหนังสือที่เราอ่านแล้วเราสามารถเก็บ หรือจำข้อความนั้นๆ ไปใช้กับชีวิตของเราได้ ไม่ใช่หนังสือที่คนอื่นบอกว่าดีๆ แต่สุดท้ายเราอ่านกลับได้แค่ความบันเทิง

ผมเจอหนังสือเล่มหนึ่ง และหนังสือเล่มนี้ทำให้ผมเอามาใช้เตือนสติด้วยเองได้ตลอดชีวิตเลย หนังสือเล่มนั้นคือ Eat that Frog ส่วนเรื่องที่โดนใจผมคือ เรื่องการทำแบบฝึกหัดตั้งเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ

ในหนังสือเล่มนี้เขามีแบบฝึกหัดให้ลองทำโดยให้เราเขียนเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิตมา 3 อย่างภายใน 30 วินาที

เชื่อมั้ยกว่า 80% ของคนส่วนใหญ่จะมีเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิตคล้ายๆ กัน 3 อย่าง (ถึงแม้จะให้เวลาอีก 3 ชั่วโมงก็ได้คำตอบเหมือนๆ กัน) คือ

  1. เป้าหมายด้านการเงินและการงาน
  2. เป้าหมายด้านครอบครัวและความสัมพันธ์
  3. เป้าหมายด้านสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย

หลังจากนั้นเขาให้เราลองให้คะแนน 1-10 กับ 3 เป้าหมายชีวิตของเรา แล้วเราจะรู้เลยว่า เราทำได้ดีอยู่แล้วในด้านไหน และควรปรับปรุงในด้านไหนบ้าง

ถัดมาจะเป็นคำถามที่เจาะลึกลงไปอีก โดยเรา “ต้องบังคับตัวเองให้ตอบไปใน 30 วินาที”

  1. อะไรคือเป้าหมายด้านธุรกิจหรือหน้าที่การงานที่สำคัญที่สุด 3 อย่างในชีวิตของคุณตอนนี้
  2. อะไรคือเป้าหมายด้านครอบครัวและความสัมพันธ์ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณในตอนนี้
  3. อะไรคือเป้าหมายด้านการเงินที่สำคัญที่สุด 3 อย่างในชีวิตของคุณในตอนนี้
  4. อะไรคือเป้าหมายด้านสุขภาพที่สำคัญที่สุด 3 อย่างในชีวิตของคุณในตอนนี้
  5. อะไรคือเป้าหมายด้านการพัฒนาตัวเองที่สำคัญที่สุด 3 อย่างในชีวิตของคุณในตอนนี้
  6. อะไรคือเป้าหมายด้านสังคมและชุมชนที่สำคัญที่สุด 3 อย่างในชีวิตของคุณในตอนนี้
  7. อะไรคือปัญหาหรือความกังวลที่หนักอกที่สำคัญที่สุด 3 อย่างในชีวิตของคุณในตอนนี้

เมื่อเราบังคับตัวเองให้ตอบคำถามภายใน 30 วินาที ไม่ว่าคำตอบจะออกมายังไง นั้นแหล่ะหมายถึงสถานการณ์ของเราในตอนนี้ และเราจะรู้เลยว่าอะไรคือสิ่งสำคัญกับเราจริงๆ

สุดท้ายเขาบอกว่า เมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว ถัดมาคือให้เราจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย พร้อมทั้งจดจ่อการทำงานของแต่ละเป้าหมายให้สำเร็จที่ละอย่าง และพยายามสร้างวินัยให้ตัวเองทำงาน (ทุกเป้าหมาย) ที่สำคัญที่สุดก่อน จะทำให้เรา “ไม่ลืม” ว่าเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเราคืออะไร

พอผมอ่านจบ ทำให้ผมตาสว่างเลยว่าเป้าหมายในชีวิตเรามันไม่ได้มีแค่งานกับเงิน แต่มันยังมีอีกสองส่วนที่สำคัญพอๆ กัน

ปัจจุบันผมจะย้อนคิดก่อนตัดสินใจอะไรที่สำคัญๆ เสมอว่า สิ่งที่เรากำลังทำ หรือที่กำลังคิดจะทำ มันตอบโจทย์เป้าหมายชีวิตที่เราวางไว้มั้ย ถ้าใช่ ไม่ต้องคิดว่า ลุยเลย

สรุปคำแนะนำวิธีการสร้างเกมมือถือให้ถูกใจจาก “กูรู” ระดับโลก

สรุปรายละเอียด การติวเข้มหลังจากเปิดตัวโครงการ DTAC Accelerate โดย 2 กูรู ระดับโลก “แม็ต มันเดย์” (แอปเปิลสโตร์) และพอล แจ๊สเตอร์เซบสกี้” (กูเกิลเพลย์) ทั้งสองท่านได้กล่าวไว้ สำคัญๆดังนี้

“แม็ต มันเดย์” (Apple Store)

  • นักพัฒนาเกมต้องสร้าง Application ที่ดีออกมาเนื่องจาก Apple Store นั้นเข้มงวดต่อคุณภาพของตัว Application มาก
  • Application ที่จะได้ขึ้นหน้าแรก (ติด Feature) ของ App Store นั้นจะถูกตรวจสอบในหลายๆด้าน ทั้งด้านการตลาด โมเดลธุรกิจ และจะมีการติดต่อกับทีมพัฒนา
  • นักพัฒนาเกมควรจะเน้นคุณภาพ Application ให้ออกมาดีที่สุด
  • Application ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ จะเป็น App ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ, มีการคิดนอกกรอบให้แตกต่างไปจากเดิม, มี design, ใช้งานง่าย และมีคุณลักษณะพิเศษในแอปที่ทำให้ผู้ใช้ประทับใจและกลับมาใช้งานอีก
  • จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดคือ การตลาด และ การขยายช่องทางเข้าถึงผู้บริโภค เนื่องจากนักพัฒนามักเน้นทำแอปของตนอย่างเดียว นักพัฒนาที่อยู่นอกสหรัฐมักไม่มีเครือข่ายหรือรู้จักกับสื่อในตลาดสหรัฐเลย เรื่องนี้หากคนมีความรู้ก็ทำได้ง่าย แต่หากไม่มีความรู้ก็ยาก
  • จุดอ่อนอีกจุดคือเรื่องภาษาของตัว App ที่จะเข้าถึงตลาดในแต่ละประเทศ
  • ควรวางแผนการพัฒนาเกมให้ครอบคลุมทุกระยะ ตั้งแต่การคิดไอเดีย, การออกแบบ, การวางแผนตลาด, การเปิดตัว ไปจนถึงทำให้แอปอยู่ต่อไปได้ในระยะยาว

แจ๊สเตอร์เซบสกี้” (Google Play)

  • เกมที่สร้างขึ้นมาควรจะคำนึงถึงการใช้การ touchscreen เป็นหลัก เช่น Angry Bird และ Fruit Ninja .. การบังคับแบบ joystick คงนำมาใช้กับโทรศัพท์ไม่ได้
  • ควรให้ความสำคัญกับการที่จะทำให้ app ของคุณเข้าถึงผู้บริโภค นั้นคือ การตลาดนั่นเอง
  • รสนิยมตลาดเกมในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ควรศึกษาให้ดี เพื่อคำนึงถึงการออกแบบที่ครอบคลุมตลาดระดับโลก
  • นักพัฒนาต้องกล้าเสี่ยง เพราะคนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากมาจากการกล้าเสี่ยงทำสิ่งใหม่ ๆ แม้หลายแอปอาจล้มเหลว แต่บางตัวอาจประสบความสำเร็จ เพราะต้นทุนการพัฒนาเกมบนมือถือน้อยอยู่แล้ว

ที่มา : Appgame.in.th